ภารกิจ

1. ส่งเสริมการจัดประสบการณ์ เตรียมความพร้อม เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ให้เหมาะสมตามวัย
2. จัดกิจกรรมที่หลากหลาย โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
3. ส่งเสริมให้เด็กมีคุณธรรม จริยธรรม และ ความเป็นไทย ได้เหมาะสมตามวัย สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
4. จัดกิจกรรมให้นักเรียนมีส่วนร่วมทุกกิจกรรม ที่ส่งเสริมให้เห็นคุณค่า และชื่นชมในศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ตลอดจน ภูมิปัญญาท้องถิ่น
5. จัดกิจกรรม ส่งเสริม สุขลักษณะ นิสัยที่ดี
6. จัดกิจกรรม ส่งเสริมรักการอ่าน
7. จัดกิจกรรมส่งเสริมอนามัย
8. จัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัย รักธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
9. จัดกิจกรรม เชื่อมโยง ความสัมพันธ์ระหว่าง โรงเรียน กับผู้ปกครองและ ชุมชน
10. จัดสภาพแวดล้อม อาคารเรียน ห้องประกอบสื่อการเรียนการสอน ที่เอื้อต่อการเรียนรู้
11. พัฒนาครูให้มีความรู้ ความสามารถในการใช้ วิธีและเทคนิค การสอนที่หลากหลาย

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

วิสัยทัศน์

โรงเรียนอนุบาลมะลิวรรณวิทยา จะผลิตนักเรียนให้มีความพร้อมทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และ สติปัญญา เหมาะสมตามวัย เพื่อศึกษาต่อในระดับชั้นที่สูงขึ้น อย่างมีความสุข รู้จักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ประเพณี ปรับตน ให้มีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่า และมีความสุข ตามระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ประวัติโรงเรียน

โรงเรียนอนุบาลมะลิวรรณวิทยา ตั้งอยู่ที่เลขที่ 79 หมู่ 2 ถนนผู้ใหญ่ม้วน แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ได้ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2541 โดยปรับปรุงอาคารเดิม เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2541 และได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2541 เปิดทำการสอนเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 โดยปีแรกได้รับค่าธรรมเนียนมการเรียนปีละ 7,780 บาท เปิดทำการสอนตั้งแต่เวลา 8.30-15.00 น.

อาคารเรียน ประกอบไปด้วย
ชั้นบน ห้องเรียนอนุบาลปีที่ 3 1 ห้อง
ห้องน้ำ 2 ห้อง
ห้องพักครู 1 ห้อง
ชั้นล่าง ห้องเรียนอนุบาลปีที่ 1 1 ห้อง
ห้องเรียนอนุบาลปีที่ 2 1 ห้อง
ห้องน้ำ 2 ห้อง
ห้องธุรการ 1 ห้อง
ห้องพยาบาล 1 ห้อง

บุคคลาการของโรงเรียน
บุคคลากรของโรงเรียน ได้แก่ ครู 4 คน โดยทั้งหมด เป็นเพศหญิง มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี 4 ท่าน อายุเฉลี่ย 40 ปี และมีประสบการณ์ การทำงานโดยเฉลี่ย 10 ปี
นักการภารโรง 1 คน
โภชนาการ 1 คน
ครูผู้ช่วย 2 คน

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ปรัชญาการศึกษา

การศึกษาปฐมวัย เป็นการพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิด ถึง 5 ปี บนพื้นฐานการอบรมเลี้ยงดู และส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กแต่ละคน ตามศักยภาพภายใต้บริบทของสังคม และวัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่ ด้วยความรัก ความเอื้ออาทร และความเข้าใจของทุกคน เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิต ให้เด็กได้พัฒนาต่อไป

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

หลักสูตรปฐมวัย

การเรียนรู้ตามที่หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 จัดทำขึ้นเพื่อผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กวัย 3-6 ปี ได้มีความเข้าใจการพัฒนาเด็ก ให้มีพัฒนาการทุกด้านสมดุล ทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาตามวัย และ ความสามารถของแต่ละบุคคล โดยผ่านกระบวนการเล่น เน้นให้เกิดประสบการณ์ตรง ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ความพร้อม เพื่อเป็นพื้นฐานการเรียนรู้ ให้เชื่อมโยงความคิดในระดับที่สูงขึ้นไป

เด็กวัย 3-6 ปี เป็นวัยที่สมองของเด็กกำลังเจริญเติบโต เด็กจำเป็นต้องได้รับความรัก ความเอาใจใส่ และดูแลอย่างใกล้ชิด เด็กวัยนี้ควรได้รับการพัฒนาดวยการเรียนรู้ โดยผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 เรียนรู้โดยการสำรวจ การเล่น การทดลอง การวิเคราะห์ ซึ่งเด็กสามารถค้นพบได้ด้วยตนเอง รู้จักการแก้ปัญหา การตัดสินใจ ใช้ภาษาสื่อความหมายให้ผู้อื่นเข้าใจได้ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีจินตนาการและปฏิบัติตามอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้

ผู้รับผิดชอบจึงมีหน้าที่ในการอบรมเลี้ยงดูและจัดประสบการณ์ให้เด็กได้แสดงออกอย่างเต็มศักยภาพ ส่งเสริมให้เด็กได้สังเกตุ สำรวจ สร้างสรรค์ และเพิ่มความกระตือรือร้นของเด็กมากขึ้นเท่าใด เป็นบ่อเกิดของการเรียนรู้ที่เพิ่มขี้นตามลำดับ ผู้รับผิดชอบจึงควรส่งเสริมสนับสนุน ให้ความรัก ให้กำลังใจ และความเข้าใจ เอาใจใส่ เด็กวัยนี้เป็นพิเศษ เพื่อเป็นพื้นฐานที่จะช่วยเตรียมความพร้อมให้เด็กได้ประสบความสำเร็จในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้เป็นคนดี คนเก่ง และดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข

โรงเรียนได้กำหนดสาระการเรียนรู้ไว้ 2 ส่วน คือ

ส่วนที่ 1 ประสบการณ์สำคัญ ดังนี้
1.1 ด้านร่างกาย
1.2 ด้านอารมณ์ และจิตใจ
1.3 ด้านสังคม
1.4 ด้านสติปัญญา

ส่วนที่ 2 สาระที่ควรเรียนรู้ ดังนี้
2.1 เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก
2.2 เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก
2.3 เรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติรอบตัวเด็ก
2.4 เรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ รอบตัวเด็ก

วางแผนการจัดประสบการณ์ด้วยกิจกรรม 6 หลักคือ
1. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
2. กิจกรรมสร้างสรรค์
3. กิจกรรมเสริมประสบการณ์
4. กิจกรรมกลางแจ้ง
5. กิจกรรมเกมการศึกษา
6. กิจกรรมเล่นตามมุม

เป็นแนวทางการจัดกิจกรรมมุ่งให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และ สติปัญญา เต็มศักยภาพ และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ดังนี้
1. ร่างกายเจริญเติบโตตามวัย และมีสุขนิสัยที่ดี
2. กล้ามเนื้อใหญ่ และ กล้ามเนื้อเล็กแข็งแรง ใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว และ ประสานสัมพันธ์กัน
3. มีสุขภาพจิตดี และ มีความสุข
4. มีคุณธรรม จริยธรรม และ จิตใจที่ดีงาม
5. ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี การเคลื่อนไหว และ การออกกำลังกาย
6. ช่วยเหลือตนเองได้ตามวัย
7. รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และความเป็นไทย
8. อยู่ร่วมกับผู้อื่น ได้อย่างมีความสุข และปฎิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
9. ใช้ภาษาสื่อสารได้อย่างเหมาะสมตามวัย
10. มีความสามารถในการคิด และ แก้ปัญหา ได้เหมาะสมตามวัย
11. มีจินตนาการและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
12. มีเจตนคติที่ดีต่อการเรียนรู้

ขอขอบคุณในการร่วมมือของคณะทำงานทุกคนที่เห็นความสำคัญ และมีความกระตือรือร้นช่วยกันคิดวิเคราะห์ ส่งเสริม สนับสนุน การจัดการศึกษาระดับปฐมวัยให้ได้มาตรฐาน ทางการศึกษา โดยสามารถนำหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย โรงเรียนอนุบาลมะลิวรรณวิทยา ฉบับนี้ไปพัฒนาเด็กได้ถูกต้องเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

แผนยุทธศาสตร์

วิเคราะห์ภาพโรงเรียน
จุดแข็ง
1. โรงเรียนมีเนื้อที่พอเหมาะที่จะเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก เหมาะกับเด็กที่มีจำนวนไม่เกิน 70 คน
2. ครู สนใจและดูแลเด็กเป็นอย่างดี และมีความเป็นกันเองกับผู้ปกครอง โดยมีผู้ปกครองประชาสัมพันธ์แนะนำเด็กให้เข้ามาใช้บริการของโรงเรียน
3. เด็กมีความเป็นอิสระในทางความคิด โดยเน้นเด็กมีความสำคัญ
จุดอ่อน
1. โรงเรียนอยู่ใกล้โรงเรียนประชานุกูล ซึ่งเป็นโรงเรียนรัฐบาลเด็กอายุ 4 ขวบ จะย้ายไปโรงเรียนประชานุกูล ซึ่งได้รับความช่วยเหลือในด้านต่างๆ มากมาย
2. เป็นโรงเรียนที่มีขนาดเล็กต้องขยายเพิ่มอีก
อุปกรณ์และสิ่งแวดล้อมภายนอก
1. สถานที่ตั้งของโรงเรียนไม่ได้อยู่ในที่ที่มีประชากรมากนัก ประกอบกับตั้งอยู่ในเขตที่มีโรงเรียนรัฐบาล ค่อนข้างมาก เช่นโรงเรียนฤทธิยวรรณาลัย และโรงเรียนประชานุกูล ทำให้เกิดปัญหาในการรับเด็กเข้าเรียน
2. บุคลากรมีวุฒิการศึกษาไม่ตรงกับสายงานมากนัก
3. ครูที่ส่งเข้าอบรมมักจะเปลี่ยนแปลงไปอยู่โรงเรียนที่ใหญ่กว่า
4. ผู้ปกครองมีฐานะไม่สู้ดีนัก เพราะส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง การเก็บค่าเล่าเรียนจึงไม่ค่อยได้เต็มอัตรานัก
ยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหา
1. ครูสอนให้เด็กมีความสามารถทางวิชาการมากขึ้น
2. เน้น จริยธรรม และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันให้ได้มากขึ้น
3. เข้าใจและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้น ดูแลน้องของลูกศิษย์ และบุตรคนต่อไปของผู้ปกครอง
4. มีกิจกรรมเสริมภาษาอังกฤษ และ อื่นๆ อีก

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

นโยบายของโรงเรียนปีการศึกษา 2550-2552

ด้านคุณภาพการศึกษา
1. ส่งเสริมและสนับสนุนคุณภาพการศึกษาทุกด้าน
2. เน้นการนิเทศภายใน และ ติดตาม ผลอย่างสม่ำเสมอ
3. ส่งเสริมให้มีการใช้สื่อ การสอน ทุกระดับชั้น
4. จัดให้ความรู้แก่ครู โดยประชุมวิชาการทุกเรื่อง มีการพบปะแลกเปลี่ยน วิธีการสอนระหว่างครูด้วยกัน และแสวงหาความรู้มาแลกเปลี่ยนดูงานต่างสถาบัน เพื่อให้มีความรู้มากขึ้น
5. มุ่งให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมรับรู้การจัดการศึกษาของโรงเรียน พร้อมรับคำติชมพื่อพัฒนาในโอกาสต่อไป
6. ให้ร่วมกิจกรรมของชุมชนให้มากขึ้น
จัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยเน้นด้านคณธรรมที่พีงประสงค์ โดยผ่านกิจกรรมการเล่านิทาน ด้านพระพุทธศาสนา ส่งเสริมให้เด็กเป็นคนดี รู้จักพื้นฐานของการเป็นคนดีของครอบครัว และประเทศชาติ ต่อไป เด็กได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมประเพณีต่างๆ เช่น วันเข้าพรรษา วันพระ ทุกวันศุกร์ ไหว้พระสวดมนต์ หลังจากนั้นจะอบรมให้ความรู้ เน้นความซื่อสัตย์ ความขยันหมั่นเพียร รู้จักช่วยตัวเอง มีความรับผิดชอบ

ด้านสุขภาพ
1. ดูแลด้าน โภชนาการให้ถูกหลักอนามัย
2. ส่งเสริมกิจกรรมกีฬา
3. ตรวจสุขภาพ โดยแพทย์เป็นประจำ
4. จัดโครงการ โครงงาน เพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยของเด็ก
5. ประกวดเด็กที่มีอนามัยดี เช่น หนูน้อยฟันสวย

ด้านศิลปะวัฒนธรรม
ส่งเสริมให้เด็กรักความเป็นไทย และทนุบำรุงศาสนา รู้จักการรำไทย การเล่นของไทย ประเพณี ต่างๆ ของไทยที่ดีงาม เช่น ประเพณีวันลอยกระทง ประเพณีขึ้นปีใหม่ วันสงกรานต์ ฯลฯ

ด้านบริหารโรงเรียน และสนับสนุนบุคลากร
1. ตกแต่งอาคารเรียน และห้องเรียนให้สวยงาม สะอาด เรียบร้อย และเอื้อต่อการเรียนการสอน
2. ดูแล ความสะอาดเรียบร้อย ในห้องเรียน นอกห้องเรียน
3. จัดการดูแลเด็ก หลังเลิกเรียน ให้ปลอดภัย

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS